เอสเอ็มเอ็ม 22 ธันวาคม:
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สังกะสี LME เปิดที่ 3,063.5 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หลังจากเปิดตลาด ผันผวนค่อนข้างมากรอบเส้นค่าเฉลี่ยรายวัน สัมผัสจุดต่ำสุดที่ 3,057 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ในช่วงเซสชั่นกลางคืน สังกะสี LME ผันผวนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่ 3,084 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ก่อนจะดีดตัวกลับใกล้เส้นค่าเฉลี่ยรายวัน ปิดสุดท้ายที่ 3,078 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้น 20 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หรือคิดเป็น 0.65% มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 8,494 ล็อต ในขณะที่โอเพ่นอินเทอเรสต์เพิ่มขึ้น 449 ล็อต เป็น 227,000 ล็อต สังกะสี LME บันทึกแท่งเทียนขาขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 40 วันด้านล่างเป็นแนวรับ ด้านมหภาค ญี่ปุ่นขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่ตลาดได้ลดราคาคาดการณ์นี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ร่วมกับสต็อก LME ที่สะสมต่อเนื่องเกือบ 100,000 ตัน และโครงสร้าง LME zinc 0-3 ยังคงอยู่ในภาวะคอนแทงโก คาดว่าว่าสังกะสี LME จะผันผวนในระยะสั้น
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาสังกะสี SHFE 2602 ที่ซื้อขายมากที่สุดเปิดที่ 23,075 หยวน/ตัน หลังจากเปิดตลาด เพิ่มขึ้นชั่วครู่ถึงจุดสูงสุดที่ 23,150 หยวน/ตัน ก่อนจะดีดตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรายวันไปถึงจุดต่ำสุดที่ 22,980 หยวน/ตัน หลังจากนั้น หลังจากซื้อขายในระดับต่ำชั่วครู่ ก็ฟื้นตัวและผันผวนใกล้เส้นค่าเฉลี่ยรายวัน ปิดสุดท้ายที่ 23,090 หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น 15 หยวน/ตัน หรือคิดเป็น 0.07% มูลค่าค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 57,849 ล็อต ในขณะที่โอเพ่นอินเทอเรสต์เพิ่มขึ้น 1,800 ล็อต เป็น 88,165 ล็อต สังกะสี SHFE บันทึกแท่งเทียนขาขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 วันด้านล่างเป็นแนวรับ แม้ว่าค่า TC ในประเทศที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้จะหยุดชะงักชั่วคราว แต่ภาคการถลุงยังคงอยู่ในสถานะขาดทุนบางส่วน การผลิตสังกะสีขัดเกลาในประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่องให้การสนับสนุนด้านล่างแก่ราราคาสังกะสี คาดว่าว่าสังกะสี SHFE จะรักษาแนวโน้มผันผวน
ข้อความที่มาแหล่งข้อมูล: นอกเหนือจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว ข้อมูลอื่นๆ ถูกประมวลผลโดย SMM จากข้อมูลสาธารณะ การสื่อสารตลาด และแบบจำลองฐานข้อมูลภายในของ SMM เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการตัดสินใจ



