เผยแพร่เมื่อ: 25 พ.ย. 2025 เวลา 17:36
ผู้เขียน:
การลงทุนแห่งประเทศไทย เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ไทยได้ปรับเปลี่ยนนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นการส่งออกและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาดในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์โดยรวม
หน่วยงานดังกล่าวระบุในแถลงการณ์ว่า รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันที่ผลิตเพื่อส่งออก จะนับเป็น 1.5 หน่วย สำหรับภาระผูกพันในการผลิตในประเทศของผู้ผลิต
“การกระทำนี้เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มการส่งออก และป้องกันไม่ให้ตลาดในประเทศมีอุปทานล้นเกินความต้องการ” แถลงการณ์ระบุ
ในเดือนกรกฎาคม หน่วยงานดังกล่าวได้ปรับปรุงนโยบายรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์มีในการปฏิบัติตามข้อกำหนดการผลิตและเพิ่มการส่งออก
แบรนด์จากจีนครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยมีส่วนแบ่งรวมกว่า 70% ของยอดขาย
ภายใต้โครงการส่งเสริมของรัฐบาลที่เรียกว่า EV3.5 ซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปี 2567 ถึง 2570 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับการลดภาษีและเงินอุดหนุนในการนำเข้ารถยนต์เพื่อจำหน่ายในไทย เพื่อแลกกับการลงทุนในโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
โครงการดังกล่าวดึงดูดการลงทุนมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงจากผู้ผลิตรายใหญ่จากจีนอย่าง BYD และ Great Wall Motors
สมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า การจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ใหม่ในไทย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบปีต่อปี เป็น 81,179 คัน
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ คิดเป็น 18% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อเทียบกับรถกระบะที่ใช้ดีเซลและเบนซิน 24% รถยนต์นั่งที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน 23% และรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด 20%
ที่มา:


