เซี่ยงไฮ้ (Gasgoo) - เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 AVATR Technology บริษัทที่ดำเนินการแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียม AVATR ได้ลงนามในข้อตกลงตัวแทนจำหน่ายแบบเอกสิทธิ์ในดูไบกับกลุ่ม Mallouk Group ของจอร์แดน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในการขยายตัวของแบรนด์ไปทั่วตะวันออกกลาง
หลังจากที่ได้เข้าสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์ไปก่อนหน้านี้ ความร่วมมือครั้งใหม่นี้ได้เน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานของ AVATR ในการเข้าถึงตลาดผู้มีรายได้สูงในภูมิภาคนี้ และเสริมสร้างการมีอยู่ในกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นในตะวันออกกลางและแอฟริกา
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว AVATR จะเปิดตัวแบรนด์ในจอร์แดนภายในสามเดือนข้างหน้า โดยครอบคลุมการแนะนำผลิตภัณฑ์ การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย และการเปิดตัวแบรนด์ บริษัทมุ่งหวังที่จะทำให้การปรับตัวเข้ากับท้องถิ่นเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วยรูปแบบ "สัญญาเพื่อตลาด" การส่งมอบรถยนต์จำนวน 185 คันเป็นครั้งแรกได้ถูกบรรจุลงเรือแล้วและกำลังเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง
กลุ่ม Mallouk นำมาซึ่งความเชี่ยวชาญที่ฝังรากลึกในตะวันออกกลาง ด้วยการดำเนินงานมากกว่าสี่ทศวรรษที่ครอบคลุมภาคส่วนระดับไฮเอนด์ เช่น ยานยนต์ มอเตอร์ไซค์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับแบรนด์รถยนต์จีนมาเกือบ 20 ปี สิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบรถยนต์และโครงสร้างพื้นฐานห่วงโซ่อุปทานที่มีอยู่ทั่วภูมิภาคจะให้การสนับสนุนแบบครบวงจรแก่ AVATR ตั้งแต่การผลิตจนถึงการขาย ด้วยการใช้ประโยชน์จากพื้นฐานนี้ AVATR ตั้งใจที่จะสร้างการนำเสนอระดับพรีเมียมที่เหมาะสมกับฐานลูกค้าที่ร่ำรวยของจอร์แดนอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่เริ่มต้นการขยายตัวไปทั่วโลกในปี 2567 AVATR ได้ใช้แนวทางแบบขั้นตอนในตะวันออกกลาง โดยสร้างความก้าวหน้าของแบรนด์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เร่งการเติบโตในกาตาร์ และตอนนี้ก็ได้ยึดหลักในจอร์แดน บริษัทกำลังเดินหน้าการมีอยู่ในตลาดต่างประเทศที่สำคัญสี่แห่งพร้อมกัน ได้แก่ อาเซียน สหภาพรัฐเอกราช (CIS) ตะวันออกกลางและแอฟริกา และละตินอเมริกา
จนถึงปัจจุบัน AVATR ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีช่องทางการขายและบริการครอบคลุม 25 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ลงนามแล้วจำนวน 55 สาขา
ในประเทศจีน AVATR ได้จัดตั้งสาขาการขายและบริการมากกว่า 700 สาขาในกว่า 200 เมืองแล้ว บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายตัวไปยัง 50 ประเทศและภูมิภาคในต่างประเทศภายในปี 2568 และเข้าสู่ตลาดยุโรปอย่างเป็นทางการในปี 2569



