จากสถิติของสมาคมเหล็กกล้าโลก (World Steel Association) ใน 69 ประเทศสมาชิก พบว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กดิบทั่วโลกในเดือนเมษายนอยู่ที่ 155.7 ล้านตัน ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
จีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตเหล็กดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก มีปริมาณการผลิต 86 ล้านตันในเดือนเมษายน เกือบเท่าเดิมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ในหมู่ประเทศเอเชียอื่น ๆ ปริมาณการผลิตของอินเดียอยู่ที่ 12.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณการผลิตของญี่ปุ่นอยู่ที่ 6.6 ล้านตัน ลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณการผลิตของเกาหลีใต้อยู่ที่ 5 ล้านตัน ลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณการผลิตของอิหร่านอยู่ที่ 3.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปริมาณการผลิตของตุรกีอยู่ที่ 3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปริมาณการผลิตรวมของ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) อยู่ที่ 11.1 ล้านตัน ลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ ปริมาณการผลิตของเยอรมนีอยู่ที่ 3 ล้านตัน ลดลง 10.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปริมาณการผลิตของรัสเซียอยู่ที่ 5.8 ล้านตัน ลดลง 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปริมาณการผลิตของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 6.6 ล้านตัน ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ปริมาณการผลิตของบราซิลอยู่ที่ 2.6 ล้านตัน ลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว



