เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานศุลกากรทั่วไปได้เผยแพร่ข้อมูลการนำเข้าและส่งออกประจำเดือนมีนาคม 2568 จากข้อมูลศุลกากรระบุว่า
ในเดือนมีนาคม 2568 การนำเข้าอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปอยู่ที่ 89,500 ตัน ลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2568 การนำเข้าสะสมอยู่ที่ 281,000 ตัน ลดลง 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในเดือนมีนาคม 2568 การส่งออกอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปอยู่ที่ 18,200 ตัน เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2568 การส่งออกสะสมอยู่ที่ 53,800 ตัน ลดลง 8.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในแง่ของแหล่งที่มาของการนำเข้า 5 ประเทศที่มีการนำเข้าอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปของจีนมากที่สุดในไตรมาส 1 ปี 2568 ได้แก่ มาเลเซีย (125,900 ตัน) รัสเซีย (46,400 ตัน) ไทย (37,500 ตัน) เกาหลีใต้ (9,800 ตัน) และเวียดนาม (9,600 ตัน) คิดเป็น 44.8%, 16.5%, 13.3%, 3.5% และ 3.4% ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนรวมของประเทศที่เหลือน้อยกว่า 20%

โดยรวมแล้ว การนำเข้าอลูมิเนียมอัลลอยด์ก้อนในแต่ละเดือนของไตรมาส 1 ปี 2568 ล้วนต่ำกว่า 100,000 ตัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการลดลงเล็กน้อย 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาอลูมิเนียมในประเทศที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งลากราคา ADC12 ลงไปด้วย ในขณะที่ราคาในต่างประเทศคงที่ รวมถึงการอ่อนค่าของเงินหยวน ซึ่งนำไปสู่การบีบอัดอัตรากำไรของ ADC12 ที่นำเข้าอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ขาดทุนในช่วงปลายเดือนมกราคม ในเดือนกุมภาพันธ์ กำไรจากการนำเข้าฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับเส้นค่าเฉลี่ยชั่วคราว แต่ถูกจำกัดด้วยการปรับตัวลดลงของราคา ADC12 ในประเทศเพิ่มเติม ทำให้การนำเข้ากลับมาขาดทุนอีกครั้ง ปัจจุบัน ราคาเสนอซื้อในต่างประเทศอยู่ในช่วง 2,430-2,450 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน โดยมีการขาดทุนจากการนำเข้าทันทีอยู่ที่ 700-900 หยวน/ตัน ช่องทางการนำเข้ายังคงปิดตัวอยู่ และคาดว่าการนำเข้าอลูมิเนียมอัลลอยด์จะยังคงดำเนินการในระดับต่ำที่ต่ำกว่า 100,000 ตันในไตรมาส 2




