》ดูราคาทองแดง SMM, ข้อมูล และการวิเคราะห์ตลาด
》คลิกเพื่อดูแนวโน้มราคาย้อนหลังของทองแดง SMM Spot
ตามข้อมูลจากกรมศุลกากรจีน จีนส่งออกลวดทองแดงเคลือบอีนาเมลทั้งหมด 10,450.67 ตันในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 8.82% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ 7.49% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน จีนส่งออกลวดทองแดงเคลือบอีนาเมลรวม 105,984.69 ตัน เพิ่มขึ้น 27.56% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (รหัส HS 85441100)

ตามข้อมูลจาก SMM บริษัทที่เกี่ยวข้องกับลวดเคลือบอีนาเมลเร่งการส่งออกเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการส่งออก ทำให้เกิดแนวโน้ม "เร่งส่งออก" ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของปริมาณการส่งออกลวดเคลือบอีนาเมลในเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน จีนส่งออกลวดทองแดงเคลือบอีนาเมลไปยัง 153 ประเทศและภูมิภาค ใน 10 ประเทศและภูมิภาคที่มีปริมาณการส่งออกสูงสุด มีเพียงการส่งออกไปยังมาเลเซียที่ลดลง 8.95% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ในขณะที่การส่งออกไปยังประเทศและภูมิภาคอื่นๆ มีการเติบโต ในแง่ของการจัดอันดับปริมาณการส่งออก มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยเวียดนาม ญี่ปุ่น และไทยยังคงอยู่ในสามอันดับแรก ด้วยปริมาณเฉพาะที่ 1,610 ตัน, 1,263 ตัน และ 1,187 ตัน ตามลำดับ การส่งออกไปยังเยอรมนีและฮ่องกงเพิ่มขึ้น 10.69% และ 28.72% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเข้าสู่ 10 อันดับแรกและอยู่ในอันดับที่เก้าและสิบตามลำดับ นอกจากนี้ การส่งออกลวดทองแดงเคลือบอีนาเมลไปยังอียิปต์ลดลงอย่างมากในเดือนพฤศจิกายน โดยมีการส่งออกเพียง 71.79 ตัน อยู่ในอันดับที่ 21

ในส่วนของจังหวัดที่ส่งออก จังหวัดสามอันดับแรกที่มีปริมาณการส่งออกสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ได้แก่ เจ้อเจียง เจียงซู และกวางตุ้ง โดยปริมาณการส่งออกลวดเคลือบอีนาเมลของเจียงซูเพิ่มขึ้น 29.23% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขึ้นมาอยู่อันดับที่สอง ในขณะที่ปริมาณการส่งออกของกวางตุ้งลดลง 2.42% อยู่ในอันดับที่สาม ขณะเดียวกัน ปริมาณการส่งออกของเหลียวหนิงลดลง 42.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตกลงมาอยู่อันดับที่ห้า ในขณะที่มณฑลอันฮุยมีการเพิ่มขึ้น 18.23% แซงหน้าเหลียวหนิงขึ้นมาอยู่อันดับที่สี่ โดยเฉพาะข้อมูลการส่งออกจากกรมศุลกากรจีนในเดือนตุลาคมแสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกของเจ้อเจียง เจียงซู กวางตุ้ง อันฮุย และเหลียวหนิงอยู่ที่ 2,742 ตัน, 2,643 ตัน, 2,001 ตัน, 649 ตัน และ 552 ตัน ตามลำดับ คิดเป็น 26.2%, 25.3%, 21.03%, 19.2%, 6.2% และ 5.3% อยู่ในห้าอันดับแรก





