จากรายงานของ Mining.com นายคิริลล์ ดมิทรีเยฟ หัวหน้ากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียได้เริ่มเจรจากับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาโครงการธาตุหายากของประเทศ
ดมิทรีเยฟกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Izvestia ว่า "โลหะธาตุหายากเป็นพื้นที่ความร่วมมือที่สำคัญ และเราได้เริ่มเจรจาเกี่ยวกับโครงการโลหะธาตุหายากหลายโครงการในรัสเซียแล้ว"
ดมิทรีเยฟเป็นหนึ่งในตัวแทนของรัสเซียในการเจรจาทวิภาคีที่จัดขึ้นในซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาเปิดเผยว่า บริษัทบางแห่งได้แสดงความสนใจในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน
เครมลินระบุว่า การเจรจาเหล่านี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น "ยังไม่มีรายละเอียดเฉพาะเจาะจง แต่ความสนใจนั้นชัดเจน" โฆษกเครมลิน นายดิมิทรี เปสคอฟ กล่าวเมื่อวันจันทร์ "ความสนใจเป็นไปในทางเดียวกัน เนื่องจากเรากำลังพูดถึงโครงการที่สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน"
Izvestia รายงานว่า ความร่วมมือด้านธาตุหายากจะถูกหารือเพิ่มเติมในรอบเจรจารัสเซีย-สหรัฐฯ ครั้งต่อไปที่จะจัดขึ้นในซาอุดีอาระเบียในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปูตินเสนอว่า สหรัฐฯ ควรเปิดกว้างต่อการสำรวจแหล่งธาตุหายากในรัสเซีย
ธาตุหายากถูกใช้ในแม่เหล็กถาวร สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ทางทหาร รัสเซียอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลกในด้านปริมาณแหล่งธาตุหายาก
"เราเต็มใจที่จะร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติทุกประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ" ปูตินกล่าวในเวลานั้น โดยระบุถึงหลายภูมิภาคที่สามารถสำรวจและพัฒนาธาตุหายากได้ รวมถึงไซบีเรียและตะวันออกไกลของรัสเซีย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อตกลงที่ครอบคลุมเกี่ยวกับแร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติกับยูเครนจะได้รับการลงนามในเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนตอบกลับว่า เขาจะไม่ยอมรับข้อตกลงใดๆ ที่คุกคามการรวมตัวของยูเครนกับสหภาพยุโรป
หากยูเครนต้องการที่จะได้รับการสนับสนุนทางทหารจากสหรัฐฯ ต่อไป ยูเครนก็มีทางเลือกอื่นน้อยมาก นอกจากการลงนามในข้อตกลง
ทรัมป์อ้างว่า ข้อตกลงที่กำลังจะเกิดขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯ ได้รับเงินคืนหลายร้อยพันล้านดอลลาร์จากความช่วยเหลือทางทหารที่ให้กับเคียฟ ในทางกลับกัน ยูเครนหวังว่า ข้อตกลงจะรวมถึงการรับประกันความมั่นคงจากสหรัฐฯ
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ประเมินว่า ปริมาณแหล่งธาตุหายากของรัสเซียอยู่ที่ 3.8 ล้านตัน แต่รัสเซียอ้างว่า ตัวเลขจริงนั้นสูงกว่านั้นมาก




